วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

HI5

1. hi5 คืออะไร

hi5 คือ ที่ๆ เราสามารถพบปะผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกได้ เรา สามารถค้นหาผู้คนที่อยู่หรือเคยอยู่ ภูมิลำเนา โรงเรียน หรือ มหาวิทยาลัยเดียวกันกับเรา ไม่ว่าเค้าจะอยู่ส่วนไหนของโลกก็ตาม และ hi5 ยังสนับสนุนให้คุณเปิดกว้างได้พบปะเพื่อนใหม่ๆ ไม่ว่าเค้าจะเป็นใครก็ตาม

hi5 คือ ที่ๆ เราจะแบ่งปันสิ่งที่มีความสำคัญให้กันและกัน ทั้งรูปถ่าย คลิปวีดีโอคลิป เพลงจากศิลปินคนโปรด ตลอดจนการได้เข้าร่วมกลุ่มเพื่อนๆ ที่เราสนใจ

hi5 คือ ที่ๆ เราได้แสดงความตัวตนของเราอย่างเต็มภาคภูมิ ด้วยการสร้างและตกแต่งหน้าเว็บ hi5 ในแบบฉบับของตัวเอง ด้วย แอนิเมชั่นและลูกเล่นเด็ดๆ ที่ใช้งานง่ายมาก

2. ขั้นตอนและวิธีการสมัคร hi5

1.) เข้าไปที่เว็บไซต์ www.hi5.com

2.) คลิกที่ปุ่ม Sign Up เพื่อสมัครค่ะ

hi5

3.) จะพบว่ามีหน้าให้กรอกรายละเอียดอยู่ 3 หน้า ให้กรอกรายละเอียดให้ครบ ดังนี้

- หน้าแรกหัวข้อ Name & E-mail ให้กรอก ชื่อ-นามสกุล , อีเมล์ และ ตั้งรหัสผ่าน

hi5

- หน้าที่ 2 Personal Information หรือ ข้อมูลส่วนตัว เลือกข้อมูลส่วนตัว ดังนี้ เพศ , วันเกิด , ภาษาที่ใช้(English) , ประเทศที่เราอยู่ , เมืองที่เราอยู่

hi5

- หน้าที่ 3 Upload A Photo หรือ การเลือกรูปแทนตัวเราค่ะ คลิกปุ่ม Browse เพื่อเลือกรูปแทนตัวเรา ซึ่งไฟล์รูปต้องเป็นไฟล์ นามสกุล jpg , gif , .bmp หรือ png และขนาดไฟล์รูปภาพต้องไม่เกิน 10 MB เรียบร้อยแล้วคลิกที่ปุ่ม Upload ค่ะ

hi5

หมายเหตุ หากต้องการกลับไปแก้ไขข้อมูล สามารถคลิกที่ <> หรือ Next > ที่อยู่ด้านล่างได้เลยค่ะ

3. วิธีค้นหาเพื่อน

เราสามารถค้นหาเพื่อนที่ถูกใจได้ด้วยวิธีง่ายๆ 2 วิธี คือ

วิธีแรก ที่ช่อง Search ด้านบนของ hi5.com เราสามารถใส่ คำหรือคีย์เวิร์ด(keyword) เพื่อค้นหา ชื่อเพื่อน (People) หรือ ชื่อคลิปวีดีโอ (Videos) ที่ต้องการ ซึ่งวิธีค้นหาจะคล้ายกันกับการค้นหาข้อมูลใน Google.com นั่นเองค่ะ เมื่อใส่เรียบร้อยแล้วก็ให้กดปุ่ม Enter ในคีย์บอร์ดหรือคลิกที่ปุ่ม Go

hi5

ก็จะแสดงรายชื่อเพื่อนๆ ที่ต้องการค้นหาดังรูปภาพด้านล่าง และหายังค้นหาไม่พบก็สามารถที่จะค้นหาอย่างละเอียดได้อีกด้วย

hi5

วิธีที่ 2 ค้นหาตามภูมิลำเนา(SEACH IN CITY) หน้าแรกของ hi5 จะมีช่องให้กรอก Country (ประเทศ) และ City (เมือง) ก็ให้เพื่อนๆ พิมพ์ชื่อประเทศ และเมืองที่เพื่อนต้องการค้นหา จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Find Friends

hi5


เจอคนที่อยากรู้จักแล้วก็อย่าลืมขอเค้าเป็นเพื่อนล่ะ

- คลิกที่รูปเพื่อนได้เลย เพื่อแวะเข้าไปเยี่ยมเยียน hi5 ของเพื่อน

hi5


- จากนั้นก็คลิก Add as a Friend เพื่อขอเพื่อนคนนั้นเป็นเพื่อนค่ะ

hi5

4. เริ่มต้น ตกแต่ง hi5

เสน่ห์ของ hi5 นอกจากจะเป็นที่รวมเพื่อนๆ ที่ถูกใจเราแล้ว ยังเป็นที่ๆเราสามารถแสดงออกถึงความเป็นตัวของเราเองได้อีก ด้วย ดังนั้นการตกแต่งประดับประดาหน้าเว็บ hi5 ของเราจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะต้องใส่ใจและสวยงามในสไตล์ที่เราชอบ


4.1 สร้าง URL ให้ hi5 ของเราเสียก่อน

การไม่มี URL เปรียบเหมือนกับเราไม่มีที่อยู่เพื่อติดต่อเพื่อนๆจะติดต่อทีก็ลำบาก มาสร้าง URL ให้ hi5 ของเราด้วยขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้ค่ะ

1.) Sign in เข้า hi5 ก่อนค่ะ โดยการกรอกอีเมลที่ใช้สมัคร และพาสเวิร์ด

hi5


2.) คลิกที่เมนู Profile จากนั้น ในช่อง Choose a personal hi5 URL! ให้ทำการตั้งชื่อตาม URL ที่ต้องการ (ส่วนใหญ่ชื่อมักจะซ้ำ ให้เพื่อนๆ อดทนหาชื่อดีๆ จำง่ายๆ กันหน่อยนะคะ) เรียบร้อยแล้วคลิกที่ปุ่ม Save

hi5

4.2 เลือก Skin สวยๆ กันเถอะ

Skin (สกิน) คือ หน้ากาก หรือรูปร่างหน้าตาของ hi5 ที่เพื่อนๆ สามารถเลือกมาตกแต่ง hi5 ของเราให้ดูสวยงามขึ้นได้

1.) Sign in เข้า hi5 ก่อนค่ะ จากนั้นคลิกที่เมนู Skin my Profile

hi5

2.) มี Skin มากมายให้เพื่อนเลือกไปแต่ง หากต้องการทดสอบดูก่อนก็ให้คลิกที่ปุ่ม Preview หรือถ้าต้องเลือกใช้เลยก็ให้คลิกปุ่ม Use Skin เรายังสามารถที่จะเลือกskinอื่นๆ ได้อีกมากมายโดยคลิกที่ปุ่ม Next ค่ะ

hi5

3.) ถ้าวันนึงเกิดเบื่อ Skin เดิมๆ เราก็สามารถเปลี่ยนใหม่ได้โดยคลิกที่ Change my Skin จากนั้นก็เข้าเลือก Skin ใหม่ๆ กันได้เลยค่ะ

hi5

4.3 ใส่ลูกเล่นสวยๆ ด้วย Widget

Widget เป็นโปรแกรม เล็กๆ สวยๆ ที่เราสามารถนำมาใส่ใน hi5 เพื่อเพิ่มจุดเด่นและความน่าสนใจค่ะ และเนื่องจาก Widget มีอยู่บนอินเทอร์เน็ต มีให้เลือกเยอะแยะมากมาย ในบทความนี้จึงขอยกตัวอย่างการติดตั้งWidgetบางตัวที่เห็นว่าน่าใช้และได้ รับความนิยมสูงค่ะ

1.) Log in เข้า hi5 ก่อนค่ะ จากนั้นคลิกที่เมนู Add A Widget

hi5

2.) เมื่อคลิกเข้ามาแล้ว จะพบกับ widget หลายตัว ทั้ง สไลด์รูปภาพ , คลิปวิดีโอ , เกม Glitter Text สามารถเลือกใส่ได้ตามใจชอบ ในที่นี้ขอแนะนำ การทำสไลด์รูปภาพ ด้วย Widget ยอดฮิต ที่ชื่อ Slide Shows ค่ะ

hi5

3.) จะเข้าสู่เว็บ Slide.com เริ่มต้นด้วยการคลิกเมนู My Files เพื่อเข้าไปเลือกรูปภาพทำการสร้างสไลด์

hi5

4.) ขั้นตอนถัดมา ให้คลิกที่ปุ่ม Browse และเมื่อเลือกรูปภาพจากในเครื่องของเรา

hi5

5.) ได้รูปมาครบแล้วเราก็ทำการอัพโหลดโดยคลิกที่ปุ่ม Upload faster -- click here! ดังรูป

hi5


6.) ตอนนี้อัพโหลดเสร็จเรียบร้อยแล้ว

hi5

7.) คลิกที่ปุ่ม SAVE (get code)

hi5


8.) คลิกที่ปุ่ม ADD To hi5 ดังรูป

hi5

9.) จากนั้นจะพบหน้าต่าง Congratulation ให้คลิกที่ Return To hi5 เพื่อกลับมาที่ hi5 ของเรา

hi5

สไลด์โชว์ที่ได้จะไปอยู่เข้าไปอยู่ในกล่อง Widget เรียบร้อยแล้วค่ะ เท่านี้เพื่อนๆ ก็ได้สไลด์โชว์เก๋ๆ ไว้ประดับ hi5 ขอเราแล้วล่ะค่ะ

hi5

4.4 ใส่เพลงยอดฮิตใน hi5

เพื่อนๆ สามารถนำโค้ดเพลงจากเว็บไซต์ Imeem.com มาแปะใน hi5 ของเราได้ด้วยขั้นตอนดังนี้ค่ะ

4.4.1 สมัคร imeem.com กันก่อน

1.) เข้าเว็บ www.imeem.com จากนั้นให้ทำการ สมัครสมาชิกโดยคลิกที่ปุ่ม Sign Up! ดังรูป

hi5

2.) กรอกรายละเอียดการสมัคร เรียบร้อยแล้วคลิก Sign Up ดังรูปค่ะ

hi5

3.) เข้าไปที่อีเมล์ที่เราใช้สมัคร จากนั้นเข้าไปเช็คอีเมล์ที่ Inbox เราจะพบว่ามีหัวข้ออีเมล์ที่ชื่อ imeem support ดังรูป

hi5


4.) เปิดอีเมล์ และคลิกลิงค์ดังรูปเพื่อ Confirm การสมัคร ก็เป็นอันสิ้นสุดขั้นตอนการสมัครสมาชิก imeem.com ค่ะ

hi5

4.4.2 วิธีนำโค้ดเพลงจาก imeem ไปแปะบน hi5 ของเรา

1.) ทำการ Log in เข้า imeem.com

2.) ทำการค้นหาเพลงที่ต้องการ โดยพิมพ์ชื่อเพลง เลือกประเภทเป็น Music จากนั้นคลิกที่ Search

hi5


3.) เมื่อพบเพลงที่ Search แล้ว ให้คลิกไปที่ชื่อเพลง จะพบหน้าต่างใหม่

hi5

4.) เมื่อพบหน้าต่างใหม่แล้ว สังเกตุคำว่า Embed ให้ copy โค๊ดนั้นไว้ และอย่าลืมเช็คเครื่องหมายถูกที่ Auto Play ด้วยนะคะ

hi5

5.) ให้กลับมาที่ hi5 ของเรา ไปที่กล่อง Life Style คลิกที่ Edit this section

hi5

6.) นำโค๊ดที่ก๊อปปี้มาได้ไปวางในช่อง About Me เมื่อวางโค๊ดแล้วให้คลิก Save Profile ดังรูป

hi5

เท่านี้เพื่อนๆ ก็จะมีเพลงเพราะๆ ใน hi5 ของตัวเองแล้วค่ะ

hi5


ใครที่มี Hi5 ก็อย่าลืมแวะไป add ผมเป็นเพื่อนด้วยนะครับ Hi5 ของผมอยู่ที่ http://TUMRVOY.hi5.com

ที่มาhttp://forum.siam55.com/data/13/0005-1.html

facebook

facebook เป็นซอฟต์แวร์เครือข่ายลักษณะเดียวกับ myspace ที่อนุญาตให้ผู้ใช้สร้างหน้าเว็บของตัวเอง และใส่ข้อมูลต่างๆ ตามต้องการ (profile page) โดยระบบสามารถค้นหาผู้ใช้ที่มีความสนใจตรงกัน เช่นชอบฟังดนตรีประเภทเดียวกัน มีหนังในดวงใจเรื่องเดียวกัน ผู้ใช้สามารถเพิ่มหรือลบลิงก์ไปสู่ผู้ใช้คนอื่น เพิ่มเป็นเครือข่ายทางสังคมอินเตอร์เน็ต ข้อแตกต่างที่สำคัญคือ facebook (เคย) เปิดให้บริการเฉพาะนักเรียนนักศึกษาสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ผู้ใช้ต้องลงทะเบียนโดยใช้อีเมล์ของสถาบันการศึกษานั้นๆ เมื่อลงทะเบียนก็จะเข้าสู่สังคมในสถาบันของตน ใส่ข้อมูลส่วนตัว จากนั้นก็เริ่มขยายเครือข่ายเพิ่มขึ้น ค้นหาเพื่อนเก่าที่เคยเรียนโรงเรียนเดียวกันมา หาเพื่อนใหม่ทั้งในสถาบันเดียวกันหรือต่างสถาบัน ในหน้าเว็บของ facebook มีส่วนประกอบหลักคือส่วนของข้อมูลผู้ใช้ ส่วนแสดงจำนวนเพื่อนในเครือข่าย กิจกรรมที่สนใจ และพื้นที่สาธารณะ (ที่เรียกว่า wall) ซึ่งผู้เข้าเยี่ยมชมสามารถเขียนข้อความไว้ได้ ข้อความบน wall นี้ผู้ใช้สามารถกำหนดให้เพื่อนในเครือข่ายเห็นหรือเปิดให้ทุกคนเห็นก็ได้ นอกจากนี้ facebook อนุญาตให้ผู้ใช้งานอัพโหลดรูป และให้ผู้ใช้ตั้งกลุ่มทางสังคม หรือแฟนคลับต่างๆ ได้
ด้วยระบบของ facebook บวกกับกลุ่มเป้าหมาย จุดประเด็นทางสังคมมากมายในวงการศึกษา ทั้งมหาวิทยาลัยและโรงเรียน ต่างได้รับผลกระทบจาก facebook
เหตุการณ์ สำคัญประการแรกคือ มีกรณีที่นักเรียนและนักศึกษาถูกเพิกถอนทุนการศึกษา หรือภาคทัณฑ์ เพราะใช้ facebook เช่นนักกีฬาโหลดรูปขณะดื่มสุรา หรือในการปาร์ตี้ใน facebook โดยแสดงกริยาไม่เหมาะสม นโยบายของโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยก็ต่างกันไปครับ บางแห่งก็อนุญาตให้ใช้ facebook ได้ ขอให้ใช้วิจารณญาณ บางแห่งก็ห้ามใช้ โดยเฉพาะในโรงเรียน อาจมีการห้ามใช้คอมพิวเตอร์ของโรงเรียนเข้าใช้งาน facebook
เหตุการณ์ สำคัญประการถัดมาคือการเพิ่มระบบ Mini-feed โดยระบบนี้จะรายงานเหตุการณ์ต่างๆ ของเพื่อนในเครือข่ายของผู้ใช้ เช่น ไมเคิลเพิ่มชื่อของมิเชลเป็นเพื่อน เจมส์ซึ่งเป็นเพื่อนของไมเคิล (แต่ไม่ได้รู้จักมิเชลเลย) ก็จะได้รับ Mini-feed ว่าขณะนี้ ไมเคิลกับมิเชลเป็นเพื่อนกันแล้ว ไม่ทันข้ามคืนที่ระบบ Mini-feed ถูกเพิ่มเข้าไปใน facebook ผู้ใช้งานต่างไม่พอใจและตั้งกลุ่มต่อต้านมากมายใน facebook ส่วนตัวผมเองเชื่อว่า Mini-feed ไม่ได้ทำให้ผู้ใช้ facebook น้อยลง และไม่ช้าก็จะค่อยๆ ชินกันไปเอง
เหตุการณ์ถัดมาคือ การเปิดให้ผู้ใช้บริการทั่วไปใช้งานได้ โดยจัดเป็นกลุ่มผู้ใช้ที่สังกัดชุมชนต่างๆ เช่นชุมชนในวอชิงตัน หรือกลุ่มคนไทย สามารถเข้าเป็นสมาชิกได้ เป็นการขยายเครือข่ายกว้างขวางออกไป
ที่มาhttp://www.whoaddme.com/board/topic590-facebook-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3.html

การสมัครใช้งาน
ก่อนจะทำการสมัครสมาชิก เราก็ต้องเข้าเว็บไซต์ให้ถูก ก่อนนะครับ http://www.facebook.com/
หลังจากนั้น จะมีหน้าเพจหน้าตา อย่างรูปด้านข้างนี้นะครับ
หลังจากกรอกข้อมูลเสร็จ ตอนนี้ก็กดปุ่มลงทะเบียนเลยครับ
กรอก ข้อมูลลงในฟอร์มทางฝั่งขวามือของหน้าเว็บนะครับ ชื่อนามสกุล รหัสผ่าน อีเมล์ อันนี้ต้องเป็นอีเมล์จริงนะครับ กรอกมั่วไม่ได้ เพราะต้องใช้ยืนยันการมีตัวตนทางอีเมล์
หลังจากนั้น จะปรากฏหน้าเพจดังรูป ซึ่งในขั้นที่สองนี้ เป็นการทดสอบว่าเราเป็นคน หรือว่าเป็นบอท นะครับ ก็กรอกตามที่เห็นครับ ตรวจสอบความถูกต้องของตัวอักษรที่พิมพ์ หลังจากนั้นก็กดลงทะเบียนได้เลยครับ
เมื่อได้หน้าอย่างนี้แล้ว แสดงว่า กระบวนการสมัครเบื้องต้น สำเร็จแล้วนะครับ

สำหรับในขั้นที่ 4 ให้เพื่อนๆ ไปตรวจสอบในอีเมล์ที่เพื่อนใช้ในการสมัครนะครับ จะมีเมล์มาจาก face book มีเนื้อความว่าประมาณ อย่างนี้ครับ ให้ทำการคลิกที่ link ที่ให้มาใน อีเมล์ เพื่อยืนยันการเป็นเจ้าของอีเมล์นะครับ
อ้างถึง
สวัสดี thaifacebook

คุณลงทะเบียน Facebook แล้วเมื่อไม่นานมานี้ ในการลงทะเบียน Facebook ให้เสร็จสมบูรณ์ ให้ตามลิงก์นี้ไป:

http://th-th.facebook.com/c.php?code=453392325&email=thaifacebook@yahoo.com

Facebook ช่วยให้คุณสื่อสารและติดต่อกับเพื่อนๆ ทั้งหมดของคุณ เมื่อคุณเข้าร่วมเป็นสมาชิก Facebook คุณจะสามารถแบ่งปันรูปภาพ กิจกรรม และอื่นๆ อีกมากมายได้

ขอบคุณ
ทีมงาน Facebook
ขั้นตอนที่ 5 หลังจากที่ได้คลิกที่ Link ที่อยู่ในอีเมล์เรียบร้อยแล้วนะครับ ขั้นตอนนี้เป็นการค้นหา เพื่อน เราสามารถเลือกได้ว่า เราจะให้ ค้นหาตามเมล์ที่เราใช้อยู่หรือเปล่านะครับ ในกรณี ที่ต้องการทำในภายหลังสามารถข้ามขั้นตอนนี้ไปนี้ไปครับ
ขั้นตอนที่ 6 อยากที่บอกนะครับ facebook เกิดจากแนวความคิดที่จะเชื่อม ทุกความสัมพันธ์ที่เรารู้จัก ให้ใกล้ชิดกันมาขึ้น นะครับ เพราะฉะนั้นในหน้าเว็บเพจตอนนี้จะให้กรอกความเป็นคุณ หรือข้อมูลส่วนตัว เล็กๆ น้อย จบจากที่ไหน ^^ จะกรอก หรือไม่กรอก ไม่ว่าครับ สามารถ ข้ามขั้นตอนได้เช่นกัน (แต่แนะนำให้กรอกนะครับ ^^)
ขั้นตอนที่ 7 อันนี้ คงไม่ต้องมีคำบรรยายมากมายครับ เพราะ ว่าคำอธิบายด้านล่าง มีมาอย่างชัดเจนอยู่ พูดง่ายๆ ตอนนี้ ก็คือให้เราเลือกประเทศที่เรา ต้องการรู้จักเพื่อนนั้นแหละครับ เข้ากลุ่มไหน คนอื่นก็เห็นเรา เราก็เห็นคนอื่นเช่นกันครับ
ขั้นตอนที่ 8 ถ้าใครมาถึงหน้าจอ นี้ก็แสดงว่า เราประสบความสำเร็จในการเปิดใช้งานเบื้องต้นแล้วครับ ^^ ยินดีตอนรับสมาชิกใหม่นะครับ ยังงัยก็แวะมาทักทายกันบ้างครับ

ที่มา http://www.forums.thaifacebook.in.th/index.php?topic=10.0

BLOG

Blog เป็นเว็บไซต์ที่สามารถเป็นได้หลากหลายอย่างแล้วแต่เจ้าของอยากให้เป็น ตั้งแต่ไดอารีส่วนตัว สถานที่สำหรับใช้ในการทำงานร่วมกัน (collaborative work space) หรือสภากาแฟสำหรับคุยเรื่องการเมือง แหล่งรวมข่าวสารความเป็นไป แหล่งรวมลิงค์ ไปจนถึงสมุดบันทึกความเป็นไปของโลกใบนี้ สรุปก็คือ "Blog" เป็นที่ซึงเราเอาไว้เขียนเรื่องราวที่ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ โดยเรื่องที่เขียนเข้าไปใหม่ จะอยู่ส่วนบนสุด ซึ่งทำให้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชม สามารถอ่านเรื่องราวใหม่ๆได้ และยังสามารถที่จะเสนอแนะหรือติชมได้ ในกรณีที่เจ้าของ Blog นั้นๆ อนุญาติ
สรุปให้ง่าย ๆ สั้น ๆ ก็คือ Blog คือเว็บไซต์ ที่มีรูปแบบเนื้อหา เป็นเหมือนบันทึกส่วนตัวออนไลน์ มีส่วนของการ comments และก็จะมี link ไปยังเว็บอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย
การสมัครสมาชิก Blog จากผู้ให้บริการ
1. เข้าสู่เว็บไซต์โดยพิมพ์ที่อยู่ www.blogger.com ใน Web Browser
2. เมื่อเข้าสู่เว็บไซต์แล้ว คลิกที่ปุ่ม สร้างบล็อกของคุณทันที

3. จะเข้าสู่ขั้นตอนที่ 1 การสร้างบัญชี Google ให้ป้อนค่าต่างๆ ดังนี้

a. ที่อยู่อีเมล์ : ให้กรอกอีเมล์แอดเดรสของเราลงไป ถ้ามีอีเมล์ของ Google (gamil) ก็กรอกลงไปได้เลย หากไม่มีก็สามารถใช้อีเมล์อื่นๆ ก็ได้ครับ ...ลองใช้ของ yahoo ดู เอ๊ะ! มันก็เวิร์คแฮะ

b. กรอกอีเมล์เดิม เพื่อยืนยันอีกครั้ง

c. จากนั้น ป้อนรหัสผ่าน(อันนี้เราต้องตั้งเอง ไม่ต้องถามคนข้างๆนะครับ) อย่างน้อย 8 ตัวอักษร

d. ยืนยันรหัสผ่าน(เดิม) อีกครั้ง

e. พิมพ์ชื่อ ที่จะใช้เป็นชื่อลงท้ายบทความที่เราโพสต์ใน Blog (เหมือนเป็นนามปากกาของเรานั่นเองครับ)

f. จากนั้นพิมพ์ ตัวอักษร(พิสูจน์ความเป็นมนุษย์) ที่เราเห็นลงในช่องด้านล่าง

g. และเมื่อเสร็จแล้ว คลิกปุ่ม ดำเนินการต่อ (อย่าลืมคลิกเช็คบ็อก ข้าพเจ้ายอมรับ ข้อตกลงการใช้บริการ) **ให้อ่านคำอธิบาย ที่กำกับอยู่ให้เข้าใจ ก่อนจะดำเนินการใดๆ

4. เข้าสู่ขั้นตอนที่ 2 ตั้งชื่อเว็บบล็อกของท่าน ซึ่งมีส่วนที่ต้องกำหนด 2 ส่วน คือ

clip_image008

a. ชื่อเว็บบล็อก : เป็นชื่อที่เราจะตั้งให้กับบล็อกของเรา ซึ่งจะแสดง (ที่ส่วนหัวของบล็อก) เป็นข้อความแรกสุดในหน้า Blog ของเรา เช่น Wonderful Life, My Life, Happy time หรืออะไรก็สุดแล้วแต่.. จะเป็นชื่อไทยก็ได้ครับ

b. ที่อยู่บล็อก (URL) : เป็นที่อยู่ที่คนทั่วไปใช้เพื่อเข้ามาชม Blog ของเรา ..ให้พิมพ์หลังคำ http:// ……………หลังจากพิมพ์แล้ว ให้ตรวจสอบดูว่า เราไปตั้งที่อยู่นี้ซ้ำกับที่อยู่ Blog ของใครบ้าง โดยคลิกที่ ตรวจสอบความพร้อมการใช้งาน ...หากที่อยู่นั้นซ้ำ จะปรากฏข้อความดังภาพตัวอย่าง
คือ บอกว่า ที่อยู่บล็อกนี้ใช้ไม่ได้ ...โปรดพิจารณาข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้
clip_image009
แต่ถ้าชื่อที่อยู่เราตั้ง ไม่ไปซ้ำกับที่อยู่ Blog ใดๆ ก็จะปรากฏข้อความว่า ..ที่อยู่บล็อกนี้สามารถใช้ได้ ดังภาพตัวอย่าง
clip_image010

5. จากนั้นให้คลิกปุ่ม ดำเนินการต่อ

6. จะเข้าสู่ขั้นตอนที่ 3 เลือกแม่แบบ (Template)
clip_image011
ซึ่ง แม่แบบ (Template) ในที่นี้ก็เปรียบเหมือน รูปร่างหน้าตาของ Blog เรา หรือสิ่งที่ปรากฏทุกอย่างในหน้า Blog หากเราเลือก แม่แบบ แบบหนึ่ง ทุกอย่างก็จะเป็นไปตามแม่แบบนั้น เช่น สีข้อความ การจัดวางส่วนต่างๆ ของ Blog พื้นหลัง เป็นต้น ให้เราเลือกแม่แบบอันใดอันหนึ่งก่อน ...ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนทีหลังได้ หลังจากทำการสมัครเรียบร้อยแล้ว

7. จากนั้นคลิกปุ่ม ดำเนินการต่อ

8. เมื่อเสร็จแล้ว ...ก็จะแสดงข้อความว่า บล็อก ของคุณถูกสร้างขึ้นแล้ว ดังภาพ
clip_image013

9. เราจะลองเริ่มต้นเขียน Blog ดู ...โดยคลิกที่ปุ่ม เริ่มต้นการเขียนบล็อก
ก็จะเข้าสู่หน้าจอของการเขียน Blog ดังในภาพ...
clip_image015
เราจะลองเขียนบทความอะไรง่ายๆ ลงไป เช่น การแนะนำตัวเอง โดยทำตามขั้นดังนี้

a. พิมพ์ชื่อเรื่อง : เช่น ยินดีต้อนรับสู่ Blog ของฉัน, Welcome to my Blog หรืออื่นๆ ตามต้องการ

b. จากนั้น พิมพ์เนื้อหาลงในพื้นที่สีขาว(2) ...เนื้อหาตามต้องการ

c. ใช้เครื่องมือปรับแต่ง(3) เบื้องต้น (สังเกตว่าจะคล้ายๆ กับเครื่องมือของโปรแกรม Microsoft word ที่เราเคยใช้เลย)

d. เมื่อพิมพ์ข้อความต่างๆ เสร็จแล้ว ...เราจะทำการเผยแพร่สู่อินเทอร์เน็ต ให้คลิกที่ปุ่ม เผยแพร่บทความ

e. หากเราต้องการดูตัวอย่างงานของเรา ในขณะที่เรากำลังเขียนอยู่นี้ ..สามารถทำได้โดยคลิกที่แท็ปเมนูด้านบน : ดูบล็อก

แค่ นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย กับการสมัครเป็นสมาชิกเพื่อขอเนื้อที่ในการเขียน Blog ในเบื้องต้น จากนั้น หากเราต้องการจะดูหน้าตาของ Blog เราเวลาที่เปิดดูจากโปรแกรมเบราว์เซอร์ ก็สามารถทำได้โดยการพิมพ์ที่อยู่ Blog ของเราลงไปใช่อง Location Bar เช่น http://ชื่อที่อยู่ที่เราตั้ง.blogspot.com แล้วกด Enter

ตัวอย่าง : http://tingtong101.blogspot.com

** โดยสิ่งที่เราพิมพ์ลงไปทั้งหมดนี้ เราเรียกว่า URL ของ Blog : เป็นเหมือนชื่อที่อยู่ที่ตัวเรา หรือผู้ชมจะใช้พิมพ์ใน Location Bar ของโปรแกรมเบราว์เซอร์เพื่อเข้ามาชม Blog ของเรา

สำหรับรายละเอียด อื่นๆ เช่น การเขียนบล็อกในขั้นที่สูงขึ้น การปรับแต่งค่าต่างๆ ของ Blog การใส่ลูกเล่นอื่นๆ จะอธิบายในเนื้อหาต่อๆไป ...แล้วคอยติดตามกันนะครับ

http://2talkbig.blogspot.com/2008/05/blog.html